บทความที่ได้รับความนิยม
-
WILD ROSE.......... by Chaisakran Nakkabunlung featuring ankle sandals Wild Prairie Rose, a rose species native to a large area of central...
-
fashion week 2011 by Chaisakran Nakkabunlung featuring chains jewelry Dress Bergdorf Goodman's Linda Fargo for Fashion Week Dress the ...
-
HIPPIE SPOTTING !! by Chaisakran Nakkabunlung on Polyvore.com Hippie fashions and values had a major effect on culture, influencing popula...
-
Winter 2011/2012 Spotlight !!! by chaisakran featuring glitter hats Marc Jacobs sequin jacket €2.130 - colette.fr Marc Jacobs high waisted...
-
Summer Music Festival by Chaisakran Nakkabunlung featuring cheetah print handbags
-
O P T I C A L LI G H T by chaisakran on polyvore.com blur - bang vblurpage.com
วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554
ถึงยุคเสื่อมของการแต่งกายแล้วหรือ ?
รูปแบบของการแต่งกายในยุคนี้ ไม่มีอะไรรูปแบบอะไรแน่นอน ไม่มีคำว่ากาละเทศะ ใครนึกอยากจะแต่งอย่างไรก็ได้ ยิ่งทำตัวได้แปลกประหลาดก็จะกลายเป็นเท่ห์ แปลกใหม่ น่าทำตาม ซึ่งจะต่างกันกับสมัยก่อนมากมาย ในสมัยก่อนไปงานกลางคืนแขกจะใส่ชุดราตรียาวกันเป็นส่วนใหญ่เพื่อเป็นการให้เกียรติ์แก่เจ้าภาพ ปัจจุบันนอกจากจะไม่ใส่ชุดราตรีไม่ว่าจะสั้น หรือยาวแล้วยังใส่กางเกงลากรองเท้าแตะเข้าไปงานเลี้ยงกลางคืน หรืองานแต่งงานกันเฉยเลย การเข้าวัดก็ควรจะใส่ชุดที่รัดกุม ไม่ใช่ใส่ขาสั้นเสื้อสายเดี่ยวที่ก้มลงกราบที ท่านเจ้าอาวาสมองทะลุถึงตาตุ่ม ละก๊อขอทีเถอะ ชุดไปงานศพก็ควรแต่งกายงามแบบสุภาพ สร้อยเพชรเจ็ดกะรัตของท่านเจ้าคุณย่าเอาเก็บไว้ก่อน ไว้ค่อยใส่ตอนไปดูคอนเสิริ์ต อาภาพร นครสวรรค์ หริือ ไปเฝ้าคณะลิเกศิษย์หอมหวลก็ควรอยู่ งานศพควรจะเป็นสร้อยมุกรอบคอแบบเรียบๆ ยิ่งถ้างานพระราชทานเพลิงศพก็ต้องสวมผ้าซิ่น หรือ กระโปรงยาว ใส่ถุงน่องดำให้เรียบร้อย ประเภทถุงน่องตาข่าย หรือที่มีลายคิตตี้หัวใจดวงน้อยๆ เอาเก็บไว้ก่อนเดี๊ยวไปงานปาร์ตี้ค่อยขุดขึ้นมาใช้ได้ ถ้าไปงานเลี้ยงปาร์ตี้เพื่อนฝูงที่เจ้าภาพไม่อั้น ไม่เหนียวเรื่องการแต่งตัวให้รีบกระหนำ่ของที่ซื้อมา แล้วหาที่ลงแลนดิ้งไม่ได้ ใส่ไปเต็มอัตราศึกก๊อไม่มีใครกล้าว่า หรือถ้ากล้ารึ ก๊อเป็นพวกกันเองซึ่งกระหน่ำว่าอย่างไรก็ไม่สน เพราะเคยนินทาว่าร้ายกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยไม่เจ็บ ไม่กลัว การแต่งตัวเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง คือดูว่าเราเหมาะกับแนวไหน หวานเจี๊ยบ หวานอมเปรี๊ยว หรือ นางเอกแสนซนคนขยัน ไม่ต้องไปตามนางแบบผอมเพรียว ขายาว ที่ใส่อะไรก็สวย พอเรามีแนวของเราแล้ว ก็ต้องแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด ชุดไหนไม่เข้ากะตัวไม่ต้องไปลองซื้อ เพราะแค่อยากเปลี่ยนแนวทางชีวิต จะซื้อมาหมกเม็ดในตู้เสื้อผ้าให้จมเงินทำไมเล่า สู้เอาไปซื้อของที่เรามั่นใจใส่แล้วสบายใจดีกว่า เสื้อผ้าที่เราใส่เล่นๆเดี๊ยวก็เบื่อเดี๊ยวก็ทิ้งไม่ต้องใส่ของแพงหรอก ตัวละร้อยตัวละห้าสิบก็ใส่เฉิดฉายได้ ถ้าเรารู้จักวิธีมิกส์ แอนด์ แมทซ์ ด้วยการนำของถูกของแพงนำมาผสมกลมกลืนให้เป็นหนึ่งเดียว การจะเลือกซื้อเสื้อผ้า อันดับแรกที่เราจะต้องดูคือ คัตติ้ง วิธีการเย็บว่ามันดูดีเรียบร้อยไม่ใช่เศษด้ายขยุกขยุย ใส่แล้วดูย่นหน้าย่นหลัง ดึงรั้งกันไปมาหาความสบายก็ไม่เจอ ไม่จำเป็นว่าต้องของแพงเท่านั้นถึงจะเย็บเรียบร้อยดูเป็นผู้ลากมากดีมาแต่อ้อน แต่ออก ของถูกแต่มีคุณภาพก็มีอยู่ถมไป แต่สิ่งสำคัญในการแต่งตัวอย่างที่สุดก็คือรองเท้า รองเท้าเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมลงทุนกับมันเพราะมันจะรับใช้เราไปอีกนานเท่านาน และรองเท้าต้องคุณภาพดีเท่านั้นที่จะสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย เดินได้ทน เดินได้นาน และเดินอย่างมีบุคลิกที่มั่นใจ ดิฉันเป็นคนนึงที่ชอบซื้อรองเท้า ทุกที่ท่ีเดินทางไป ลองทุกแบบทุกราคา ตั้งแต่ของถูกไปจนถึงของแพงใครว่ายี่ห้อไหนดีก็ไปลองซื้อมาหมด ก็มาสรุปกับตัวเองว่า การเชื่อตัวเองนี่แหละสำคัญที่สุดบางทียี่ห้อดังที่ใครต่อใครว่าดี ก็อาจจะไม่ถูกกับเรา เราต้องเลือกเองลองเองถึงจะรู้ แต่รองเท้าต้องเน้นที่คุณภาพเท่านั้นคือแบบสวยใส่สบาย ทนทานคุ้มกับการลงทุนในระยะยาวเพราะเคยหน้าแตกในเรื่องรองเท้ามาแล้วหลายต่อหลายครั้ง มีพี่สาวคนนึงซึ่งเป็นคนที่ได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปว่าเป็นคนแต่งกายดีคนนึงขอองวงการ เคยบอกไว้ว่าคนเราถ้ามีชุดเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่มีคุณภาพดีแค่ชิ้นเดียว ยอมใส่ซ้ำ ซะยังจะดีกว่ามีเสื้อผ้ากระเป๋า รองเท้ามากมายแต่หาดีไม่ได้สักตัวเดียว......
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น